ค่าใช้จ่ายเทสดิน 2025 — ปัจจัย ราคามาตรฐาน และสิ่งที่ควรรู้



ก่อนเริ่มก่อสร้างบ้าน อาคาร โรงงาน หรือโครงการขนาดใหญ่ การ เทสดิน (Soil Test) ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะผลทดสอบจะบอกว่าสภาพดินรองรับโครงสร้างได้แค่ไหน แต่หนึ่งในคำถามที่เจ้าของโครงการกังวลมากที่สุดคือ “ค่าใช้จ่ายเทสดินราคาเท่าไหร่?”
บทความนี้จะอธิบาย ค่าใช้จ่ายเทสดินปี 2025 ปัจจัยที่ทำให้ราคาสูง–ต่ำ ตารางราคาเฉลี่ยในไทย และสิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนเลือกบริษัท
1. ทำไมต้องทำการเทสดิน?
-
เพื่อวิเคราะห์ความสามารถในการรับน้ำหนักของดิน
-
เพื่อเลือกวิธีออกแบบฐานรากที่เหมาะสม (ตื้น / ลึก / เสาเข็ม)
-
เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต เช่น อาคารทรุด แตกร้าว หรือโครงสร้างวิบัติ
-
เพื่อให้รายงานที่ได้สามารถใช้ยื่นอนุญาตก่อสร้างได้จริง
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายเทสดิน
-
จำนวนจุดทดสอบ
-
บ้านพักอาศัยทั่วไป: 1–2 จุด
-
อาคาร/โรงงาน: 3–5 จุดขึ้นไป
→ ยิ่งจุดมาก ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
-
-
ความลึกในการเจาะสำรวจ
-
10 เมตร: มักใช้กับบ้านพักอาศัย
-
20–30 เมตร: อาคารขนาดกลาง
-
30–50 เมตร: อาคารสูง/โรงงานขนาดใหญ่
-
-
วิธีการทดสอบ
-
SPT (Standard Penetration Test) = มาตรฐานทั่วไป
-
CPT, Plate Load Test = ราคาสูงกว่า
-
-
ทำเลที่ตั้ง
-
กรุงเทพฯ และปริมณฑล ราคามาตรฐานสูงกว่าต่างจังหวัด
-
พื้นที่ห่างไกล ค่าเดินทางอาจเพิ่มขึ้น
-
-
รูปแบบรายงานที่ต้องการ
-
รายงานมาตรฐาน: ตาราง + กราฟ + ข้อสรุป
-
รายงานเชิงลึก: มีการแนะนำฐานรากอย่างละเอียด ราคาจะสูงกว่า
-
3. ค่าใช้จ่ายเทสดินปี 2025 (ราคาโดยประมาณ)
ประเภทงาน | ความลึก | ค่าใช้จ่ายต่อจุด (บาท) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
บ้านพักอาศัย | 10 เมตร | 20,000 – 30,000 | รวมเจาะ SPT และรายงาน |
อาคารขนาดกลาง | 20–30 เมตร | 30,000 – 50,000 | เหมาะกับอาคารพาณิชย์/โรงงาน |
อาคารสูง/โรงงานใหญ่ | 30–50 เมตร | 50,000 – 100,000 | ใช้หลายจุดเจาะ + รายงานละเอียด |
Plate Load Test | – | 15,000 – 30,000/ครั้ง | ใช้กับฐานรากตื้น/ถนน |
CPT Test | – | 25,000 – 40,000/จุด | ให้ค่ารายละเอียดสูง |
📌 หมายเหตุ: ราคานี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยในตลาดปี 2025 ขึ้นอยู่กับบริษัทที่ให้บริการ
4. สิ่งที่ควรรวมอยู่ในค่าใช้จ่าย
-
ค่ารถเจาะสำรวจ + อุปกรณ์
-
ค่าทำการทดสอบภาคสนาม (SPT, Plate Load, CPT ฯลฯ)
-
ค่าเก็บตัวอย่างและทดสอบในห้องแล็บ (Compaction, Direct Shear, Permeability)
-
ค่าวิศวกรเซ็นรับรองรายงาน
-
ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายหน้างาน
5. สิ่งที่ควรถามบริษัทก่อนตกลงราคา
-
ราคาที่เสนอรวม ค่ารายงานเซ็นโดยวิศวกร กว. แล้วหรือยัง?
-
ถ้าพื้นที่อยู่ต่างจังหวัด มีค่าเดินทางเพิ่มหรือไม่?
-
กำหนดเวลาส่งรายงานกี่วัน?
-
มีตัวอย่างรายงานจริงให้ดูหรือไม่?
-
ถ้าต้องการทดสอบเสาเข็มเพิ่มเติม มีบริการเสริมหรือไม่?
6. เปรียบเทียบ “ราคาถูก” vs “บริการคุณภาพ”
-
บริษัทที่เสนอราคาต่ำเกินไป อาจตัดขั้นตอนหรือใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน
-
บริษัทที่มีราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่มีมาตรฐาน ASTM/กรมโยธาฯ มักให้ผลลัพธ์เชื่อถือได้มากกว่า
-
ควรเลือกจาก คุณภาพรายงาน มากกว่าราคาเพียงอย่างเดียว
7. บริการเทสดินที่ควรเลือกในปี 2025
-
มีวิศวกรโยธาที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
-
ใช้มาตรฐาน ASTM, AASHTO, หรือกรมโยธาธิการ
-
รายงานครอบคลุมข้อมูลทางเทคนิค + คำแนะนำการออกแบบฐานราก
-
มีประสบการณ์ในพื้นที่ที่ลักษณะดินใกล้เคียง
สรุป
ค่าใช้จ่ายเทสดินปี 2025 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนจุดทดสอบ ความลึก วิธีการ และบริษัทที่เลือกใช้ โดยราคามาตรฐานเริ่มต้นประมาณ 20,000–30,000 บาท/จุด สำหรับบ้านพักอาศัย และอาจสูงถึง 50,000–100,000 บาท/จุด สำหรับอาคารใหญ่ การเลือก บริการเทสดิน ไม่ควรดูเพียงราคา แต่ควรพิจารณาประสบการณ์ มาตรฐาน และความน่าเชื่อถือของบริษัท เพื่อให้ผลทดสอบนำไปใช้ออกแบบฐานรากได้จริง
