Cell Broadcast ระบบเตือนภัยพิบัติผ่านมือถือที่ประเทศไทยกำลังทดสอบ


เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุ สึนามิ หรือแม้แต่การโจมตีทางทหาร “การแจ้งเตือนล่วงหน้า” คือปัจจัยสำคัญที่สามารถลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมหาศาล หนึ่งในระบบแจ้งเตือนที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพและรวดเร็วคือ “Cell Broadcast” หรือ “การออกอากาศข้อมูลผ่านเซลล์มือถือ” ซึ่งทำงานผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยไม่ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือ SMS ปกติ
แม้ระบบนี้จะถูกใช้อย่างแพร่หลายในหลายประเทศที่ประสบภัยบ่อย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ แต่ประเทศไทยกลับยังไม่มีการใช้งานอย่างเป็นระบบ ทั้งที่เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยชีวิตคนไทยได้มากในภาวะฉุกเฉิน
บทความนี้จะพาไปรู้จัก Cell Broadcast อย่างเจาะลึก ตั้งแต่พื้นฐานการทำงาน ประโยชน์ เหตุผลที่ประเทศอื่นเลือกใช้ พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่าอะไรคืออุปสรรคที่ทำให้ไทยยังไม่เดินหน้าใช้ระบบนี้เสียที
Cell Broadcast คืออะไร?
Cell Broadcast คือ เทคโนโลยีที่ใช้ส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่อยู่ในพื้นที่ “เซลล์” หรือพื้นที่ให้บริการของเสาสัญญาณโทรศัพท์ โดยไม่ต้องระบุหมายเลขปลายทาง ไม่ต้องใช้แอป ไม่ต้องเปิดอินเทอร์เน็ต และไม่จำเป็นต้องสมัครรับข้อความ
พูดง่าย ๆ ก็คือ หากคุณอยู่ในรัศมีของเสาสัญญาณที่ส่งข้อความผ่าน Cell Broadcast คุณจะได้รับข้อความเตือนทันที โดยไม่ว่าจะใช้มือถือรุ่นใด หรือเครือข่ายไหน ขอแค่เปิดเครื่องอยู่ก็รับได้
หลักการทำงานของ Cell Broadcast
Cell Broadcast ทำงานโดยการส่งข้อความออกอากาศผ่านเสาสัญญาณโทรศัพท์ในลักษณะ “กระจาย” (Broadcast) แทนที่จะเป็น “ระบุ” (Unicast) อย่าง SMS หรือโทรศัพท์ ข้อความที่ส่งออกสามารถถูกกำหนดได้ให้แสดงผลทันที มีเสียงเตือนพิเศษ และปรากฏขึ้นเต็มหน้าจอแม้ในขณะล็อกหน้าจอ
ระบบนี้สามารถกำหนดได้ว่าใครควรได้รับข้อความ เช่น เฉพาะคนที่อยู่ในเขตที่พายุพัดผ่าน หรือใกล้โรงงานที่เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหล โดยไม่รบกวนคนในพื้นที่อื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ
ประโยชน์ของ Cell Broadcast ในการเตือนภัย
- รวดเร็วมาก – ส่งข้อความถึงคนหลายแสนคนในพื้นที่เป้าหมายภายในไม่กี่วินาที
- ไม่ขึ้นกับอินเทอร์เน็ต – ใช้สัญญาณโทรศัพท์พื้นฐาน ไม่ต้องมี 4G/5G หรือ Wi-Fi
- ไม่ต้องรู้เบอร์มือถือ – ไม่ต้องเก็บข้อมูลส่วนตัว ไม่ต้องส่ง SMS ทีละเบอร์
- ต้านทานความหนาแน่นของการใช้งาน – ในช่วงวิกฤตที่คนจำนวนมากใช้มือถือพร้อมกัน (เช่นหลังแผ่นดินไหว) ระบบ SMS หรือโทรศัพท์มักล่ม แต่ Cell Broadcast ยังสามารถทำงานได้
- เหมาะกับภัยที่ต้องแจ้งทันที – เช่น สึนามิ ไฟป่า หรือการโจมตีด้วยอาวุธ
ตัวอย่างประเทศที่ใช้ Cell Broadcast แล้วได้ผล
1. ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศต้นแบบในการใช้ Cell Broadcast โดยเฉพาะผ่านระบบ J-Alert ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศ ประชาชนจะได้รับข้อความเตือนภัยแผ่นดินไหว สึนามิ พายุ หรือแม้แต่การยิงขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ โดยโทรศัพท์จะส่งเสียงเตือนเฉพาะ แม้จะตั้งไว้ในโหมดเงียบ
2. เกาหลีใต้
หลังจากเหตุการณ์เรือเซวอลอับปางในปี 2014 และการทดสอบขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้พัฒนา Cell Broadcast อย่างจริงจัง ข้อความเตือนจากรัฐบาลถูกส่งถึงทุกมือถือทันทีเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ควันสารเคมีรั่ว น้ำท่วมฉับพลัน หรือการโจมตีทางอากาศ
3. เนเธอร์แลนด์
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้ระบบ NL-Alert ซึ่งเป็นการส่งข้อความผ่าน Cell Broadcast เพื่อแจ้งเตือนภัยสารเคมีรั่ว ไฟไหม้ หรือการจราจรอันตราย โดยไม่ต้องติดตั้งแอปใด ๆ ข้อความถูกส่งแบบเต็มหน้าจอและมีเสียงเตือนเฉพาะ
แล้วทำไมประเทศไทยถึงยังไม่ใช้?
แม้ Cell Broadcast จะมีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีพร้อมใช้งานมานานแล้ว แต่ประเทศไทยยังไม่ได้นำมาใช้อย่างเป็นระบบ สาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้:
1. ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ถึงแม้เครือข่ายมือถือในไทยจะครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ แต่ระบบส่งข้อมูลแบบ Cell Broadcast จำเป็นต้องอัปเกรดซอฟต์แวร์และระบบหลังบ้านของเสาสัญญาณ ซึ่งต้องอาศัยการลงทุนจากโอเปอเรเตอร์ทุกราย
2. ไม่มีหน่วยงานกลางดูแลระบบ
การเตือนภัยด้วย Cell Broadcast ต้องมีระบบศูนย์กลางที่ส่งคำเตือนผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีการจัดตั้งหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ควบคุมการส่งสัญญาณอย่างถาวร
3. ขาดความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน
ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ (เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา ปภ. กสทช.) กับเครือข่ายโทรศัพท์ยังไม่เพียงพอที่จะเดินหน้าระบบนี้แบบบูรณาการ
4. ไม่มีแรงกดดันจากเหตุการณ์ร้ายแรง
ประเทศที่เริ่มใช้ Cell Broadcast มักมีเหตุการณ์รุนแรงกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น สึนามิ 2011 ที่ญี่ปุ่น หรือไฟไหม้ป่าใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย ส่วนในไทยยังไม่เจอวิกฤตระดับนั้นจึงอาจยังไม่ได้รับความสำคัญเร่งด่วน
ความพยายามของไทยที่ผ่านมา
- ปี 2561 เคยมีการทดสอบระบบ Cell Broadcast ผ่าน กสทช. และโอเปอเรเตอร์บางรายในช่วงการฝึกซ้อมแผนรับมือภัยพิบัติ
- ปี 2563 มีแผนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่จะพัฒนาระบบเตือนภัยผ่านมือถือ แต่ยังไม่เกิดการใช้งานจริง
- ปัจจุบันมีเพียงระบบ SMS และแอปพลิเคชัน เช่น Thai Disaster Alert ซึ่งไม่ครอบคลุมเท่า Cell Broadcast
ความสำคัญของ Cell Broadcast ในยุคสมัยใหม่
ในโลกที่ภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ระบบ Cell Broadcast ไม่ใช่เรื่องของ “นวัตกรรม” อีกต่อไป แต่เป็น “ความจำเป็นพื้นฐาน” เช่นเดียวกับระบบสัญญาณไฟไหม้หรือถังดับเพลิง เพราะในสถานการณ์จริง แค่การแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนแผ่นดินไหวเพียง 10-15 วินาทีก็อาจช่วยชีวิตคนจำนวนมากได้
เสียงสะท้อนจากประชาชน: ทำไมถึงอยากให้ไทยมี Cell Broadcast
- “เราอยู่ในประเทศที่มีพายุเข้าแทบทุกปี แต่ทำไมยังไม่มีการเตือนภัยแบบนี้ทางมือถือ?”
- “ญี่ปุ่นเตือนแผ่นดินไหวก่อนเกิดจริง ๆ มือถือสั่นแล้วทุกคนหนีได้ทัน ทำไมมือถือเรารอข่าวทีวี?”
- “ถ้าไม่ต้องโหลดแอป ไม่ต้องสมัคร แล้วทำไมไม่ทำซะที?”
เสียงเหล่านี้สะท้อนว่าประชาชนตื่นตัวและต้องการความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน หากรัฐบาลขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ประชาชนก็พร้อมสนับสนุน
ทางออก: จะทำให้ Cell Broadcast เกิดในไทยได้อย่างไร?
- ตั้งหน่วยงานกลางรับผิดชอบ – อาจอยู่ภายใต้ ปภ. หรือจัดตั้งกลุ่มเฉพาะที่เชื่อมโยงระหว่าง กสทช. ผู้ให้บริการมือถือ และหน่วยงานเตือนภัย
- อัปเกรดโครงสร้างของโอเปอเรเตอร์ – ผ่านการสนับสนุนจากภาครัฐหรือบังคับผ่านกฎหมายในฐานะ “บริการสาธารณะ”
- อบรมประชาชนให้เข้าใจการใช้งาน – เช่น การตั้งค่าให้มือถือเปิดรับ Cell Broadcast และวิธีปฏิบัติตนเมื่อได้รับการแจ้งเตือน
- เริ่มทดลองใช้ในพื้นที่เสี่ยง – เช่น ภาคใต้ที่เสี่ยงสึนามิ หรือภาคเหนือที่มีแผ่นดินไหวบ่อย เพื่อสร้างโมเดลนำร่อง
สรุป
Cell Broadcast คือระบบเตือนภัยที่โลกกำลังเดินหน้าใช้กันอย่างจริงจัง ด้วยประสิทธิภาพในการเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และแม่นยำ แต่ประเทศไทยกลับยังไม่ได้เริ่มใช้อย่างเป็นทางการ ทั้งที่ภัยพิบัติรอบด้านนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี
การผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบ Cell Broadcast อย่างเป็นรูปธรรม ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตคนไทยในยามวิกฤต แต่ยังแสดงถึงความพร้อมของประเทศในการรับมือกับภัยสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 21
คำถามคือ: จะต้องรอให้เกิดโศกนาฏกรรมก่อนหรือถึงจะเริ่มทำ?
หากคุณต้องการให้บทความนี้มีอินโฟกราฟิกประกอบ หรืออยากให้แปลงเนื้อหาเป็นรูปแบบโพสต์โซเชียล/สไลด์นำเสนอ บอกได้เลยครับ ยินดีช่วยจัดทำให้!
