เปรียบเทียบประกันชีวิต 2568 เจ้าไหนคุ้มสุด? อัปเดตราคาล่าสุด!

 เปรียบเทียบประกันชีวิต 2568 เจ้าไหนคุ้มสุด? อัปเดตราคาล่าสุด!

ในปี 2568 การเลือกประกันชีวิตไม่ใช่แค่เรื่องของความคุ้มครองอีกต่อไป แต่ต้องพิจารณาทั้ง เบี้ยประกัน ระยะเวลาคุ้มครอง ผลประโยชน์ที่ได้รับ และความมั่นคงของบริษัทประกัน วันนี้เราจะพาคุณเจาะลึกการเปรียบเทียบประกันชีวิตจากบริษัทชั้นนำของไทย พร้อมอัปเดตราคาล่าสุดที่คุณไม่ควรพลาด

ประกันชีวิต


ประเภทของประกันชีวิตที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ

ก่อนที่เราจะเปรียบเทียบ เราต้องเข้าใจประเภทของประกันชีวิตหลักๆ ก่อน

1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Life)

  • คุ้มครองเฉพาะช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 5, 10 หรือ 20 ปี

  • เบี้ยถูก แต่ไม่มีเงินคืน

  • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองชั่วคราว เช่น มีลูกเล็ก กู้บ้าน

2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life)

  • คุ้มครองถึงอายุ 99 หรือ 100 ปี

  • มีเงินคืนเมื่อเสียชีวิต หรือครบกำหนด

  • เบี้ยสูงกว่าแบบชั่วระยะเวลา แต่คุ้มค่าระยะยาว

3. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment)

  • ได้ทั้งความคุ้มครองและเงินออม

  • มีเงินคืนเป็นระยะ และเงินก้อนตอนครบสัญญา

  • เหมาะสำหรับผู้ที่อยากวางแผนการเงินควบคู่ไปกับการประกันชีวิต


เกณฑ์ในการเปรียบเทียบประกันชีวิต

เพื่อให้การเปรียบเทียบเป็นธรรมและชัดเจน เราใช้เกณฑ์ดังนี้:

  • เบี้ยประกันต่อปี

  • ผลประโยชน์ที่ได้รับเมื่อครบสัญญา

  • เงินคืนระหว่างทาง (ถ้ามี)

  • จำนวนปีที่ต้องจ่ายเบี้ย

  • ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกัน


เปรียบเทียบประกันชีวิต 2568 จาก 5 บริษัทชั้นนำ

1. กรุงเทพประกันชีวิต – แผน “กรุงเทพ 90/20”

  • เบี้ยต่อปี: ประมาณ 15,000 บาท (ชาย อายุ 30)

  • ผลประโยชน์: คุ้มครองถึงอายุ 90 ปี พร้อมเงินคืนตอนเสียชีวิต

  • จ่ายเบี้ยเพียง 20 ปี

  • ข้อดี: บริษัทมั่นคง เหมาะสำหรับวางแผนเกษียณ

  • ข้อเสีย: ไม่มีเงินคืนระหว่างทาง

2. เมืองไทยประกันชีวิต – แผน “สะสมทรัพย์ 99/10”

  • เบี้ยต่อปี: 25,000 บาท (ชาย อายุ 30)

  • ผลตอบแทนรวมเมื่อครบสัญญา: มากกว่า 300,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยเพียง 10 ปี

  • มีเงินคืนเป็นรายปี

  • ข้อดี: เหมาะกับคนที่ต้องการออมเงินควบคู่กับประกัน

  • ข้อเสีย: เบี้ยค่อนข้างสูง

3. ไทยประกันชีวิต – แผน “ทรัพย์ปันผล 85/15”

  • เบี้ยต่อปี: 18,500 บาท (ชาย อายุ 30)

  • มีปันผลสะสมระหว่างปี

  • จ่ายเบี้ย 15 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85

  • ข้อดี: ได้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ยปันผล

  • ข้อเสีย: ปันผลไม่การันตี ขึ้นอยู่กับผลประกอบการบริษัท

4. AIA – แผน “AIA สะสมทรัพย์ 20Pay100”

  • เบี้ยต่อปี: 22,000 บาท (ชาย อายุ 30)

  • จ่ายเบี้ย 20 ปี คุ้มครองถึงอายุ 100

  • มีเงินคืน 2% ของทุนประกันทุกปี

  • ข้อดี: เหมาะสำหรับสายวางแผนระยะยาว

  • ข้อเสีย: เริ่มได้รับผลตอบแทนช้ากว่าแบบอื่น

5. SCB Protect – แผนประกันตลอดชีพ

  • เบี้ยต่อปี: เริ่มต้น 12,000 บาท

  • สมัครผ่านออนไลน์ได้

  • ข้อดี: ขั้นตอนง่าย ไม่ต้องพบตัวแทน

  • ข้อเสีย: ความครอบคลุมแผนยังน้อยกว่าเจ้าดั้งเดิม


สรุป – เจ้าไหนคุ้มที่สุดในปี 2568?

 

บริษัท แผน เบี้ย/ปี ปีที่จ่าย คุ้มครอง เงินคืน เหมาะกับใคร
กรุงเทพประกันชีวิต 90/20 15,000 20 ปี ถึงอายุ 90 ไม่มี วางแผนระยะยาว
เมืองไทย สะสมทรัพย์ 99/10 25,000 10 ปี ถึงอายุ 99 มีทุกปี ออมเงินควบคู่ประกัน
ไทยประกันชีวิต ทรัพย์ปันผล 85/15 18,500 15 ปี ถึงอายุ 85 ปันผล รับรายได้ระหว่างทาง
AIA 20Pay100 22,000 20 ปี ถึงอายุ 100 2%/ปี แผนยาวมั่นคง
SCB Protect Life Plan 12,000 ยืดหยุ่น ตลอดชีพ ไม่มี คนรุ่นใหม่ออนไลน์

คำแนะนำก่อนเลือกทำประกันชีวิต

  1. เป้าหมายของคุณคืออะไร?
    คุ้มครอง? ออมเงิน? เกษียณ?

  2. งบประมาณต่อปีไหวแค่ไหน?
    เลือกเบี้ยที่ไม่กระทบการใช้ชีวิต

  3. ตรวจสอบบริษัทประกัน
    ควรเลือกบริษัทที่มีอันดับความมั่นคงทางการเงินสูง (เช่น AA หรือ AAA)

  4. อ่านเอกสารกรมธรรม์ให้ละเอียด
    โดยเฉพาะเรื่องเงื่อนไขการเวนคืน / ยกเลิก

  5. เปรียบเทียบหลายเจ้า
    อย่าซื้อจากเจ้าแรกที่เสนอ ต้องเปรียบเทียบเพื่อความคุ้มค่า


บทสรุป

ประกันชีวิตในปี 2568 มีแผนให้เลือกมากมาย โดยแต่ละเจ้าเน้นจุดแข็งที่แตกต่างกัน การเลือกประกันชีวิตที่ “คุ้มที่สุด” ขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินของคุณเอง หากคุณต้องการความคุ้มครองอย่างเดียว แผน Term Life อาจดีที่สุด แต่ถ้าอยากออมเงินไปด้วย แผนสะสมทรัพย์หรือปันผลจะตอบโจทย์มากกว่า


🔗 Internal Links

🌐 External Links

Related post