เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 ใช้ไม่ทันหมดสิทธิ์ไหม? เจาะลึกทุกข้อสงสัย ก่อนพลาดสิทธิ์สำคัญ


โครงการ “แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” เฟส 3 ที่รัฐบาลไทยเดินหน้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ยังคงเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเฟสที่ 3 ซึ่งถือเป็นรอบต่อยอดจากสองเฟสก่อนหน้า มีการปรับปรุงรายละเอียดหลายด้าน เช่น กลุ่มเป้าหมาย วิธีใช้ รวมถึง “ระยะเวลาการใช้จ่าย” ที่ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า “หากใช้เงินดิจิทัลไม่ทันภายในเวลาที่กำหนด จะถูกตัดสิทธิ์ไหม?” หรือ “เงินจะหายหรือเก็บไว้ใช้ได้หรือเปล่า?”
ในบทความนี้ เราจะพาคุณผู้อ่านไปเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับ “ระยะเวลาการใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3” พร้อมตอบคำถามสำคัญที่หลายคนกำลังสงสัย เพื่อไม่ให้คุณพลาดสิทธิ์ที่ควรได้รับ!
ทำความเข้าใจก่อนว่า “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” คืออะไร?
เงินดิจิทัล 10,000 บาท คือ สวัสดิการจากภาครัฐ ที่ให้ประชาชนสามารถนำไปใช้จ่ายในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยรัฐบาลจะเติมเงินเข้ากระเป๋าดิจิทัลของผู้ได้รับสิทธิ์ผ่านระบบแอปพลิเคชันที่กำหนด เช่น “เป๋าตัง” หรือระบบที่ผูกกับ Digital Wallet ของภาครัฐ
โครงการนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง และส่งเสริมการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น
เงื่อนไขเบื้องต้นของเงินดิจิทัลเฟส 3
ก่อนพูดถึงเรื่อง “ใช้ไม่ทันหมดสิทธิ์ไหม” มาทบทวนเงื่อนไขสำคัญของโครงการกันก่อน
- คุณสมบัติของผู้ได้รับสิทธิ์
- สัญชาติไทย
- อายุ 16 ปีขึ้นไป
- มีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน
- มีเงินฝากรวมไม่เกิน 500,000 บาท
- ข้อจำกัดการใช้จ่าย
- ใช้ได้เฉพาะในร้านค้าและบริการที่ร่วมโครงการ
- ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดหรือโอนให้ผู้อื่นได้
- ใช้ได้เฉพาะในเขตพื้นที่ตามทะเบียนบ้าน
- กำหนดเวลาการใช้จ่าย
- ใช้จ่ายได้ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ซึ่งในเฟส 3 อาจกำหนดเป็น 3 หรือ 6 เดือนตามประกาศของรัฐบาล)
ใช้เงินไม่ทันภายในเวลากำหนดจะเป็นอย่างไร?
คำถามยอดฮิตของคนจำนวนมาก คือ…
“ถ้าไม่ได้ใช้เงินดิจิทัลให้หมดภายในเวลาที่กำหนด เงินจะหายไหม?”
“จะยังใช้เงินต่อได้หรือไม่ หรือถูกตัดสิทธิ์?”
“สามารถขอขยายเวลาได้ไหม?”
จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยหน่วยงานภาครัฐ (อัปเดตล่าสุดในเฟส 3 ปี 2568) ได้มีการระบุชัดเจนว่า:
“หากผู้ได้รับสิทธิ์ไม่ใช้เงินภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิ์ และยอดเงินคงเหลือจะถูกเรียกคืนเข้ารัฐทันที”
นั่นหมายความว่า หากคุณใช้ไม่หมด หรือไม่ได้ใช้เลยภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ (เช่น 6 เดือน) ยอดเงินที่เหลืออยู่ในบัญชีดิจิทัลจะถูก “ล้างทิ้ง” โดยอัตโนมัติ และคุณจะ ไม่สามารถขอคืนหรือขยายเวลาได้ เว้นแต่มีกรณีเฉพาะ เช่น ปัญหาด้านระบบ การเจ็บป่วย หรือข้อขัดข้องที่พิสูจน์ได้และต้องยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
🗓 ระยะเวลาการใช้เงินเฟส 3 – เช็กให้ชัดก่อนหมดสิทธิ์!
ตามข้อมูลเบื้องต้นในเฟส 3 รัฐบาลกำหนดระยะเวลาการใช้จ่ายดังนี้:
- เริ่มใช้: ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568
- สิ้นสุดการใช้: ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
รวมระยะเวลา: 6 เดือนเต็ม ซึ่งถือว่านานพอสมควรในการวางแผนใช้จ่าย แต่ก็ยังมีโอกาสพลาดได้หากละเลย หรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “วันหมดอายุ”
ตัวอย่างกรณีจริงที่เคยพลาดสิทธิ์
ในเฟสก่อนหน้า (เฟส 1 และ 2) มีประชาชนหลายรายพลาดสิทธิ์เพราะ…
- ลืมกดรับสิทธิ์ ภายในเวลาที่กำหนด
- ไม่เข้าใจว่าต้องใช้ในพื้นที่ตามทะเบียนบ้าน
- เข้าใจผิดว่าใช้เมื่อไหร่ก็ได้
- รอจังหวะลดราคาหรือโปรโมชั่นพิเศษ แต่สุดท้ายลืมใช้
กรณีเหล่านี้ส่งผลให้ยอดเงินถูกเรียกคืนโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ดังนั้นในเฟส 3 นี้ การตระหนักรู้และวางแผนจึงสำคัญอย่างมาก
วิธีป้องกันไม่ให้เสียสิทธิ์
หากคุณได้รับสิทธิ์แล้ว ต่อไปนี้คือวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดและใช้สิทธิ์ได้เต็มจำนวน:
- ตั้งแจ้งเตือนบนมือถือ ไว้เตือนทุกเดือน
- วางแผนใช้จ่ายล่วงหน้า เช่น แบ่งใช้เดือนละ 1,500-2,000 บาท
- ติดตามข่าวสารผ่านแอปฯ เป๋าตัง หรือเว็บไซต์ของรัฐบาล
- สอบถามร้านค้าใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการ
- อย่ารอโปรโมชั่นจนเกินเวลา เพราะอาจหมดสิทธิ์ก่อน
ใช้เงินดิจิทัลกับอะไรได้บ้าง?
เพื่อให้ใช้เงินได้หมดอย่างคุ้มค่า คุณสามารถใช้จ่ายได้กับ:
- ร้านขายของชำในชุมชน
- ร้านอาหารตามสั่งหรือข้าวแกง
- ตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการ
- ร้านขายยา คลินิก หรือร้านสุขภาพบางแห่ง
- ร้านบริการตัดผม ซ่อมของ ฯลฯ (ถ้าเข้าร่วมโครงการ)
ห้ามใช้กับ:
- ร้านสะดวกซื้อบางรายที่ไม่ได้เข้าร่วม
- การซื้อสุรา ยาสูบ และสิ่งผิดกฎหมาย
- การโอนเงินหรือถอนเงินสด
หากไม่ได้ใช้ครบ 10,000 บาท จะเสียเงินไหม?
ไม่เสียเงินจริง แต่ “จะเสียโอกาส” ที่ควรได้รับจากรัฐ เพราะเงิน 10,000 บาทนั้นเป็นสิทธิ์ที่มอบให้คุณฟรี และหากไม่ใช้ให้หมดภายในเวลาที่กำหนด ถือว่า “สละสิทธิ์” โดยอัตโนมัติ
ยิ่งไปกว่านั้น การไม่ใช้เงินอาจส่งผลถึง “การพิจารณาให้สิทธิ์ในโครงการต่อ ๆ ไป” ได้ เพราะรัฐอาจดูสถิติการใช้ของแต่ละคนมาพิจารณา
จะมีการขยายเวลาไหม?
ในบางกรณี รัฐอาจขยายเวลาให้ใช้เงินได้ หากมีเหตุการณ์พิเศษ เช่น:
- ปัญหาด้านระบบแอปฯ ล่มเป็นวงกว้าง
- ภัยพิบัติที่ส่งผลต่อการใช้จ่าย
- ข้อร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก
แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการประกาศขยายเวลาในเฟส 3 อย่างเป็นทางการ จึงควรวางแผนใช้จ่ายให้ครบภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
สรุปชัด ๆ: ใช้เงินดิจิทัลไม่ทัน = เสียสิทธิ์แน่นอน!
รายละเอียด | คำอธิบาย |
---|---|
ใช้เงินไม่หมดในเวลาที่กำหนด | เงินที่เหลือจะถูกลบและเรียกคืน |
ขอคืนสิทธิ์ได้ไหม | ไม่ได้ ยกเว้นกรณีพิเศษและต้องยื่นเรื่อง |
มีการเตือนก่อนหมดเขตไหม | บางแอปอาจมีแจ้งเตือน แต่ควรเตรียมตัวเอง |
ขยายเวลาได้ไหม | ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐ ยังไม่ยืนยันแน่ชัด |
ใช้เงินกับอะไรได้ | ร้านค้าในชุมชนที่ร่วมโครงการเท่านั้น |
บทส่งท้าย: อย่าปล่อยสิทธิ์หลุดมือ!
เงินดิจิทัล 10,000 บาท ถือเป็นหนึ่งในโครงการใหญ่ที่รัฐหวังให้เกิดผลต่อเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม และในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์ คุณมีโอกาสที่จะใช้เงินเหล่านี้เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่
