อยากเก่งภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มยังไง? รวมเทคนิคเรียนภาษาอังกฤษให้พูดได้จริง


อยากเก่งภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มยังไง?
เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษให้พูดได้ ฟังรู้เรื่อง ใช้ได้จริง
การเก่งภาษาอังกฤษในยุคนี้ไม่ใช่แค่ “ทางเลือก” แต่เป็น “ทางรอด” ไม่ว่าจะเพื่อการทำงาน เรียนต่อ ท่องเที่ยว หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน หลายคนมีคำถามว่า “อยากเก่งภาษาอังกฤษต้องเริ่มจากตรงไหน?” หรือ “เรียนภาษาอังกฤษให้เก่งจริง ทำยังไง?”
บทความนี้จะพาคุณไปดูเทคนิคเรียนภาษาอังกฤษแบบรอบด้าน เหมาะสำหรับทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงระดับกลางและสูง พร้อมเคล็ดลับที่ใช้งานได้จริง เห็นผลชัดเจน
ทำไมถึงต้องเรียนภาษาอังกฤษ?
ก่อนจะเริ่ม เราต้องเข้าใจว่าทำไมภาษาอังกฤษถึงสำคัญขนาดนี้:
-
เป็นภาษาสากล: ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้กันทั่วโลก ไม่ว่าจะในการทำงาน การศึกษา หรือธุรกิจ
-
เปิดโอกาสใหม่ ๆ: ไม่ว่าจะเรียนต่อเมืองนอก ทำงานกับบริษัทต่างชาติ หรือขายของออนไลน์ ภาษาอังกฤษช่วยให้คุณก้าวสู่ระดับโลก
-
เข้าถึงความรู้และข้อมูล: เว็บไซต์ หนังสือ หรือคอร์สเรียนส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษ
-
สร้างรายได้เพิ่ม: งานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษมักมีรายได้สูงกว่างานทั่วไป
เรียนภาษาอังกฤษ เริ่มจากอะไร?
1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
ถามตัวเองว่า “อยากเก่งภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไร?” เช่น:
-
เพื่อสอบ TOEIC, IELTS
-
เพื่อคุยกับลูกค้าต่างชาติ
-
เพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ
-
เพื่อดูหนังไม่ต้องพึ่งซับ
เมื่อรู้เป้าหมาย จะช่วยกำหนดแผนการเรียนได้ตรงจุดมากขึ้น
2. พื้นฐานสำคัญ: Grammar ไม่ได้จำเยอะ แต่ต้องเข้าใจ
คนส่วนใหญ่กลัว Grammar ทั้งที่จริงแล้วเราต้องรู้เพียงแค่โครงสร้างหลัก เช่น:
-
Tense (Present, Past, Future)
-
Sentence Structure (ประธาน + กริยา + กรรม)
-
คำศัพท์พื้นฐาน เช่น Verb, Noun, Adjective, Adverb
Tip: เรียนภาษาอังกฤษจากการ “ใช้จริง” มากกว่าท่องจำ
3. ฟังให้มาก พูดให้บ่อย
อยากเก่งภาษาอังกฤษ ต้องฟังทุกวัน เช่น:
-
ฟัง Podcast ภาษาอังกฤษ (เช่น BBC Learning English, TED Talks)
-
ดูหนัง/ซีรีส์ Soundtrack พร้อมซับอังกฤษ
-
ฟังเพลงภาษาอังกฤษและลองแปลเนื้อเพลง
อย่ากลัวพูดผิด เริ่มจากพูดประโยคง่าย ๆ กับตัวเอง หรือฝึกพูดหน้ากระจก
4. อ่านออก เขียนได้
เริ่มจากอ่านบทความง่าย ๆ เช่น:
-
ข่าวสั้นจาก Voice of America (VOA)
-
บทความในหัวข้อที่คุณสนใจ เช่น กีฬา แฟชั่น หรือไอที
และฝึกเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษวันละ 5–10 ประโยค ช่วยพัฒนาทักษะการเรียบเรียงประโยคได้ดีขึ้น
เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งเร็ว
1. เรียนจากสิ่งที่คุณชอบ
ชอบทำอาหาร? ดูคลิปสอนทำอาหารภาษาอังกฤษ
ชอบกีฬา? อ่านข่าวกีฬาภาษาอังกฤษ
หลักการคือ: รวมสิ่งที่ชอบเข้ากับภาษาอังกฤษ
2. ใช้เทคนิค “Shadowing”
คือการฟังภาษาอังกฤษแล้วพูดตามทันที เหมือน “เงา” ของเจ้าของภาษา
ช่วยพัฒนาการออกเสียงและจังหวะการพูดให้เป็นธรรมชาติ
3. เรียนแบบ Active Learning
ไม่ใช่แค่ “ดู” หรือ “ฟัง” อย่างเดียว แต่ต้อง “พูด”, “เขียน”, “ตั้งคำถาม”
เช่น หลังดูคลิป TED Talk ให้เขียนสรุป หรือพูดสรุปด้วยตัวเอง
4. สร้างสภาพแวดล้อมภาษาอังกฤษ
-
เปลี่ยนมือถือ/แอปเป็นภาษาอังกฤษ
-
พูดกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษบ้าง
-
เข้ากลุ่ม Line หรือ Discord ที่ฝึกภาษาอังกฤษร่วมกัน
แนะนำแหล่งเรียนภาษาอังกฤษฟรีและดี
แหล่งเรียน | รายละเอียด |
---|---|
BBC Learning English | คลิปสั้นเข้าใจง่าย |
EngVid | วิดีโอสอน Grammar, Vocabulary |
Duolingo | แอปเรียนภาษาอังกฤษแบบเกม |
YouTube ช่อง Speak English with Mr. Duncan | ฟรี! มีครบทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน |
LangCorrect | เว็บให้เจ้าของภาษาช่วยตรวจการเขียน |
คำศัพท์น่ารู้สำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ | ความหมาย |
---|---|
Hello / Hi | สวัสดี |
Thank you | ขอบคุณ |
Sorry | ขอโทษ |
I don’t understand | ฉันไม่เข้าใจ |
Can you repeat, please? | กรุณาพูดอีกครั้งได้ไหม? |
ความผิดพลาดที่ควรเลี่ยงในการเรียนภาษาอังกฤษ
-
ท่องจำมากเกินไป แต่ไม่ฝึกใช้
-
กลัวพูดผิด จนไม่กล้าพูดเลย
-
เรียนแต่ Grammar ไม่ฟัง ไม่พูด
-
ไม่มีเป้าหมายชัดเจน
-
เรียนไม่สม่ำเสมอ
วิธีวัดผลว่าเราเก่งภาษาอังกฤษขึ้นจริงไหม?
-
ฟัง Podcast แล้วเข้าใจมากขึ้น
-
ดูหนังไม่ต้องเปิดซับไทย
-
พูดโต้ตอบกับคนต่างชาติได้คล่องขึ้น
-
เขียนอีเมลภาษาอังกฤษได้ถูกต้องมากขึ้น
-
ทำข้อสอบ TOEIC หรือ IELTS ได้คะแนนสูงขึ้น
สรุป: เรียนภาษาอังกฤษไม่ยาก ถ้าเรียนให้ถูกทาง
การ เรียนภาษาอังกฤษ จะไม่ใช่เรื่องยากหรือน่าเบื่ออีกต่อไป ถ้าเรามีเป้าหมายชัดเจน ใช้เทคนิคที่เหมาะกับตัวเอง และเรียนอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ต้องเรียนวันละหลายชั่วโมง แต่ “ขอแค่ทุกวัน” วันละ 15–30 นาที ก็เห็นพัฒนาการชัดเจนในไม่กี่เดือน
📌 คำแนะนำสุดท้าย:
“อย่ากลัวผิด เพราะความผิดพลาดคือครูของการเรียนรู้”
เริ่มจากวันนี้ เริ่มจากคำง่าย ๆ แล้วค่อย ๆ ต่อยอดคุณจะ พูดอังกฤษได้ ฟังเข้าใจ ใช้งานได้จริง แน่นอน!
