ขั้นตอนการต่ออายุใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวระบบ MOU อย่างถูกต้อง

 ขั้นตอนการต่ออายุใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวระบบ MOU อย่างถูกต้อง

ในยุคที่ประเทศไทยยังคงต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวในหลายภาคอุตสาหกรรม ระบบการจ้างแรงงานที่เป็นทางการและถูกต้องตามกฎหมายกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งนายจ้างและแรงงานต้องให้ความสนใจ หนึ่งในระบบสำคัญนั้นคือ “ระบบ MOU” หรือ “Memorandum of Understanding” ที่เป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เพื่อให้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวดำเนินไปอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ใบอนุญาตทำงานภายใต้ระบบ MOU มีระยะเวลาจำกัด และเมื่อนายจ้างต้องการให้แรงงานอยู่ทำงานต่อ จำเป็นต้องดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตอย่างถูกต้องและทันเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความผิดทางกฎหมาย บทความนี้จะอธิบายทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ตั้งแต่การเตรียมเอกสารไปจนถึงการรับใบอนุญาตฉบับใหม่ เพื่อให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวเข้าใจง่ายและสามารถดำเนินการได้ถูกต้อง

แรงงานต่างด้าว


MOU คืออะไร และทำไมต้องต่ออายุใบอนุญาต?

ระบบ MOU คือ?

ระบบ MOU คือการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านการตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับประเทศต้นทางของแรงงาน โดยแรงงานจะเข้ามาทำงานผ่านขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด มีการทำเอกสาร ตรวจสุขภาพ และทำใบอนุญาตทำงานครบถ้วน ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้พำนักและทำงานในระยะเวลาที่กำหนด (มักไม่เกิน 2 ปีต่อรอบ)

ทำไมต้องต่ออายุ?

เมื่อระยะเวลาการทำงานครบกำหนด หากต้องการให้แรงงานยังคงทำงานต่อไป นายจ้างจะต้องดำเนินการต่อใบอนุญาตใหม่ หากไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง แรงงานจะถือว่าพักอาศัยและทำงานโดยผิดกฎหมาย มีโทษทั้งฝ่ายแรงงานและนายจ้าง


ระยะเวลาที่ควรเริ่มต่อใบอนุญาต

ควรเริ่มดำเนินการต่อใบอนุญาตก่อนวันหมดอายุไม่น้อยกว่า 30-60 วัน เพื่อเผื่อเวลาในการจัดเตรียมเอกสาร การตรวจสุขภาพ และขั้นตอนในระบบราชการ


คุณสมบัติของแรงงานที่สามารถต่ออายุได้

  • เป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามระบบ MOU
  • ไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมายหรือฝ่าฝืนกฎหมายแรงงานไทย
  • ต้องมีนายจ้างเดิมรับรอง และยังคงประสงค์จะจ้างงานต่อ

เอกสารที่ต้องใช้ในการต่ออายุใบอนุญาต

การต่อใบอนุญาตทำงานต้องใช้เอกสารจากทั้งฝ่ายนายจ้างและฝ่ายแรงงานดังนี้:

สำหรับแรงงานต่างด้าว

  1. สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือเอกสาร CI (ในบางกรณี)
  2. ใบอนุญาตทำงานเดิม (Work Permit)
  3. หนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง
  4. ผลตรวจสุขภาพล่าสุดจากสถานพยาบาลที่กระทรวงแรงงานรับรอง
  5. รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป
  6. แบบฟอร์ม ตม.7 (แบบขออยู่ต่อในราชอาณาจักร)

สำหรับนายจ้าง

  1. สำเนาบัตรประชาชน/หนังสือรับรองนิติบุคคล
  2. ทะเบียนบ้าน (กรณีนายจ้างบุคคลธรรมดา)
  3. สัญญาจ้างงานระบุระยะเวลาและตำแหน่ง
  4. แบบแจ้งการจ้างแรงงานต่างด้าว (ตามที่กรมการจัดหางานกำหนด)
  5. แบบคำขอ (แบบ ตท.10 หรือแบบที่ใช้ในปีนั้น ๆ)

ขั้นตอนการต่ออายุใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวระบบ MOU

ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบกำหนดหมดอายุ

  • เช็กวันหมดอายุของใบอนุญาตทำงานและหนังสือเดินทางของแรงงาน
  • ควรดำเนินการก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 30-60 วัน

ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสุขภาพแรงงาน

  • พาแรงงานไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลที่รัฐรับรอง (เช่น โรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่)
  • ต้องผ่านเกณฑ์สุขภาพที่กำหนด เช่น ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง
  • ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 500-1,200 บาท

ขั้นตอนที่ 3: ยื่นเรื่องต่ออายุวีซ่าพำนัก (อยู่ต่อ)

  • ยื่นแบบ ตม.7 และเอกสารประกอบที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่
  • ชำระค่าธรรมเนียมการต่อวีซ่าประมาณ 1,900 บาท
  • หากได้รับการอนุมัติ จะได้วีซ่าต่ออายุอีก 2 ปี (หรือแล้วแต่รอบ MOU)

ขั้นตอนที่ 4: ยื่นต่อใบอนุญาตทำงานที่สำนักงานจัดหางาน

  • ยื่นใบคำร้องต่ออายุใบอนุญาตทำงาน พร้อมแนบเอกสารจากนายจ้างและแรงงาน
  • ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ประมาณ 1,800 – 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาอนุญาต
  • ใช้เวลาประมาณ 7-14 วันในการพิจารณา

ขั้นตอนที่ 5: รับใบอนุญาตใหม่และตรวจสอบข้อมูล

  • ตรวจสอบข้อมูลในใบอนุญาตว่าถูกต้องหรือไม่ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ตำแหน่งงาน
  • รับเอกสารและเก็บไว้ให้ดี เพราะใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการทำงานและอยู่อาศัย

ค่าธรรมเนียมโดยประมาณ (อาจเปลี่ยนแปลง)

รายการ ค่าธรรมเนียม (บาท)
ค่าตรวจสุขภาพ 500 – 1,200
ค่าธรรมเนียมต่อวีซ่า 1,900
ค่าใบอนุญาตทำงาน 1,800 – 3,000
ค่าบริการหรือตัวแทน (ถ้ามี) แล้วแต่ตกลง

สิ่งที่ควรระวังในการต่อใบอนุญาต

  1. อย่าปล่อยให้หมดอายุก่อนดำเนินการ – หากเลยกำหนดจะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด หรือต้องส่งกลับประเทศ
  2. ระวังกลุ่มมิจฉาชีพหรือผู้แอบอ้าง – ควรดำเนินการผ่านเจ้าหน้าที่รัฐหรือบริษัทรับดำเนินการที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
  3. เอกสารต้องครบและถูกต้อง – ข้อมูลผิดแม้เพียงเล็กน้อยอาจทำให้ไม่สามารถต่ออายุได้
  4. ต้องมีนายจ้างรับรอง – หากนายจ้างไม่รับรอง หรือมีการเปลี่ยนนายจ้าง ต้องยื่นเรื่องแยกต่างหาก

ทางเลือก: ต่อเองหรือผ่านตัวแทน?

ต่อเอง:

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • ต้องมีเวลาว่างและเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ชัดเจน
  • เหมาะกับนายจ้างที่มีแรงงานน้อย

ผ่านตัวแทน:

  • สะดวกและรวดเร็ว
  • มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เช่น 3,000 – 5,000 บาทต่อคน)
  • เหมาะสำหรับนายจ้างที่มีแรงงานจำนวนมาก

บทลงโทษหากไม่ต่อใบอนุญาต

ความผิด โทษ
แรงงานไม่มีใบอนุญาต ปรับสูงสุด 5,000 บาท หรือถูกส่งกลับประเทศ
นายจ้างจ้างแรงงานผิดกฎหมาย ปรับ 10,000 – 100,000 บาท ต่อแรงงาน 1 คน
ไม่ดำเนินการแจ้งเปลี่ยนนายจ้าง/สถานที่ทำงาน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

สรุป

การต่ออายุใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวระบบ MOU เป็นภารกิจสำคัญที่นายจ้างต้องรับผิดชอบ เพื่อให้การจ้างงานเป็นไปตามกฎหมายไทย ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย แต่ยังเป็นการดูแลแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้อง เป็นธรรม และมีมนุษยธรรม

การดำเนินการต่อใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามขั้นตอนที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าต่อได้อย่างราบรื่น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมระบบแรงงานที่ยั่งยืนในประเทศไทย

 

Related post